วิธีเทรดฟอเร็กซ์กลยุทธ์ Carry Trading ถือยาวกว่า 1 สัปดาห์

การเทรดฟอเร็กซ์โดยการถือออร์เดอร์ไว้นานๆนั้นจะนอกจากจะได้เสียจากค่าเงินที่เปลี่ยนแปลงแล้ว เรายังจะได้เสียจากค่า Swap อีกด้วย แต่สำหรับคนที่ไม่กังวัลเรื่อง Swap อยากเทรดแบบระยะยาวเพื่อไม่มีมีเวลามานั่งวิเคราะห์กราฟรายชั่วโมงกลยุทธ์นี้ก็สามารถนำไปใช้ในการเทรดได้เช่นกัน โดยจะใช้อินดิเคเตอร์ RSI, MACD และ Moving Average 8 และ 14 ในการหาสัญญาณเทรดเพื่อทำการเข้า Sell หรือ Buy เราลองไปชมเทคนิควิธีนี้กันว่าเหมาะสมกับคุณหรือเปล่า

Carry Trading 

Swap คืออะไร
Swap คือ ส่วนต่างของดอกเบี้ยเมื่อเราถือออเดอร์การเทรดนั้นๆ ข้ามคืน ซึ่งแต่ละโปรกเกอร์จะมีค่าแตกต่างกัน นอกจาดอกเบี้ยที่เราต้องเสียหาก Swap ออร์เดอร์ของเราเป็นค่าติดลบแล้วในบางโปรกเกอร์จะมีค่าธรรมเนียมการคืออร์เดอร์ข้ามคืนอีกด้วย สำหรับการดูค่า Swap คู่สกุลเงินต่างๆ ก็คลิกขว่าที่คู่สกุลเงินในหน้าต่าง Symbol->Specification จะได้เมนูแสดงค่า Swap ดังนี้

*ในวันพุธจะทำการปรับดอกให้ 3 วัน ซึ่งเอายอดของวันเสาร์และอาทิตย์มาปรับดอกให้ ไม่ใช่วันจันทร์ (3-days swap = Wednesday)
กรอบเวลาที่เหมาะสม
- H4, D1, Week1 แต่ที่เหมาะสมที่สุดคือ D1

อินดิเคเตอร์ที่ใช้
- RSI ตั้งค่า Default
- MACD ตั้งค่า Default
- Simple Moving Average 2 ตัว ตั้งค่า 8 และ 14

แนวคิดของกลยุทธ์ Carry Trade 
- เข้าซื้อหรือขายคู่สกุลเงินที่มีค่าส่วนต่างของ Swap เป็นบวก
- ถือออร์เดอร์นั้นไว้ให้น่านที่สุด
- ออกจากการเทรดเมื่อเทรนด์กลับตัว

วิธีการเข้าออรเดอร์ Buy

วิธีการเข้าออรเดอร์ Buy ระบบ Carry TRading

-ดูเทรนด์ว่าเป็นขาขึ้นในกราฟ D1
- ดู MACD ว่ากำลังจะกลับตัว Histogram ค่อยต่ำลงจนค่าจะมากว่า 0
- ดู SMA 8 ตัดเหนือขึ้น SMA14
- ทำการเข้าซื้อในแท่งเทียนถัดไป

กำไรและขาดทุน
ออกจากการเทรดเมื่อเทรนด์รายวันเริ่มกลับตัว
หรือเส้น SMA8 ตัดลง SMA 14 อีกครั้ง
หรือจะเลื่อน Stop loss ไว้ที่ราคาเข้าแล้วถือไปเรื่อยๆ จนกว่าราคาจะกลับมาที่เดิมจะได้ดอกเบี้ยหลายวัน
- ตั้งจุดขาดทุนที่แนวรับ

ในกรณีนี้ค่าเงินในตัวอย่างคือ NZD/JPY การเข้าออเดอร์ขาย (Sell) ก็ทำเช่นเดียวกันเพียงแต่จะไม่ได้ดอกเบี้ย และกลยุทธ์เลื่อน Stop loss ไปที่จุดราคาเข้าจะใช้ไม่ได้เพราะเราจะกลายเป็นเสียดอกเบี้ยแทน

**กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับคนที่มีเงินทุนเยอะและไม่ค่อยมีเวลามอนิเตอร์การเทรด